hip hop ตำนานราชาวงการฮิปฮอปจุดกำเนิดและจุดจบ !

hip hop วันนี้ว่าด้วยเรื่องของสองหนุ่ม Tupac Biggie แร็ปเปอร์ผิวสี จาก east coast และ west coast โดย east คือ ตะวันออกส่วน west คือ ตะวันตก ส่วน coast คือ ชายฝั่ง ๆ ตะวันออก และตกวันตกของสหรัฐ ห่างกันประมาน 4500 กิโลเมตร เท่ากับเราบินจากสนามบินเชียงใหม่ ไปลงภูเก็ต ไปกลับสองรอบ ด้วยระยะทางที่ห่างกันขนาดนี้ สองหนุ่มแร็ปเปอร์ผิวสี เขาไปทะเลาะกันได้ยังไง และกลายเป็นสงคราม ถึงขั้นฆ่ากันตายได้ยังไง ความรุ่นแรงนี้เกิดขึ้นได้ยังไง และสาเหตุมาจากไหน วันนี้จะมาเล่าให้ฟังครับ

จุดเริ่มต้นคือสองคนนี้ เขาเป็นเพื่อนรักกัน และสนิทกันมาก ถึงแม้ทั้งสองคนนั้น ไม่ได้คบกันมาตั้งแต่วัยเด็ก เขาทั้งสองคนมารู้จักกัน ตอนที่ Tupac เองเขามีผลงานเพลง และชื่อเสียงแล้ว รวมไปถึงภาพยนตร์ที่ 2pac ก็ได้ไปแสดงมาแล้วส่วนพี่ บิ๊กกี้ เป็นคนหนึ่งที่เรียกว่า สกิลการแร็ปของพี่แกไม่ธรรมดาจริง ๆ คนหนึ่งแห่งยุคเลยก็ว่าได้ แต่ในด้านอื่น ๆ ไม่ค่อยจะโอเค สักเท่าไหร่

นอกจากจะยังไม่เป็น ที่รู้จักของผู้คน แถมยังมีประวัติติดตัวด้วย ในเรื่องของการค้ายาเสพติด สองคนนี้ถ้าดูดี ๆ เขามีหลาย ๆ อย่างที่คล้าย ๆ กัน ทั้งเป็นคนผิวสี เป็นลูกที่ไม่มีพ่อ เกิดมาในสภาพแวดล้อม ที่เป็นแหล่งเสื่อมโทรม เป็นสลัม พัวพันกับความเป็น Gangster มาตั้งแต่เด็ก เป็นคนที่อยากจะเป็นแร็ปเปอร์ มีความฝันร่วมกันเหมือนกัน อายุอานามก็ไล่เลี่ยกัน สามารถที่จะเข้าอกเข้าใจกัน พูดจาภาษาเดียวกัน

2pac เขาก็เลยพยายามดันบิ๊กกี้ Tupac ถึงขนาดยอมให้ Biggie ขึ้นเล่นในเวทีคอนเสิร์ตของ 2pac เลย มันมีนักร้องแร็ปมากมาย ที่เขาอยากจะขึ้นเวทีคอนเสิร์ต มาเป็นแขกรับเชิญของ 2pac คนเราถ้าไม่ไว้ใจกัน หรือปรารถนาดี ก็คงไม่ยอมขนาดนี้

ดั่งเช่น ประเทศเราเวลานักร้องคนไหน ที่มีคอนเสิร์ต ใครที่เป็นแขกรับเชิญ ก็แสดงว่าเขาเหล่านั้น สนิทกันรักกัน และไว้ใจกันในระดับหนึ่ง เมื่อบิ๊กกี้ไปที่ลอสแอนเจลิส ทูพักก็ตอนรับขับสู่บิ๊กกี้เป็นอย่างดี พาไปกินเหล้า เมากัญชา เสพนารี ตามประสาคนรวย และมีชื่อเสียง

เพื่อน ๆ บ้างคนคงสงสัยว่าเมากัญชา !! ใช่ครับเมากัญชา เพราะในบางรัฐของเขา ถูกกฎหมายครับ ส่วนทูพักเองเวลาไปที่นิวยอร์ก บิ๊กกี้ก็ตอนรับขับสู่เช่นด้วยกัน ทางบิ๊กกี้นั้น เขาเองก็มีความฝัน ที่จะเป็นนักร้องแร็ปที่มีชื่อเสียง เหมือนกับทูพักเช่นกัน อยากที่จะประสบความสำเร็จ ในวงการวงดนตรี

อยู่มาวันหนึ่ง ผลงานบิ๊กซีได้ไปเข้าหู puff daddy เป็นเจ้าของค่ายแบดบอย และในเวลาต่อมา บิ๊กกี้ก็ได้ได้เริ่มทำงานเพลงกับ puff daddy แล้วก็เริ่มมีชื่อเสียง แต่ก็ยังเรียกได้ว่า ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ และทางบ๊กกี้เขาก็ยังคาดหวัง และช่วงเวลานั้น ก็ขอร้องให้ทูพักนั้นเป็นป๋าดันให้

ขณะเดียวกันตอนนั้น ทูพักก็เรียกได้ว่า มีทุกอย่างประสบความสำเร็จแล้ว และก็ยังได้เป็น ดาราฮอลลีวูดอีกด้วย แต่ผิดคาดทูพักได้บอกกับบิ๊กกี้ว่า ให้อยู่กับ puff daddy นั้นแหละดีแล้ว เดียว puff จะดันบิ๊กกี้เอง ถามว่าบิ๊กกี้รู้สึกยังไง ก็มีผิดหวังเล็กน้อยครับ

ในวงการ บ้านเราก็มักรับอธิพลมาเช่นกันตั้งแต่แต่งตัวแพงๆไปจนถึงทำสงครามกันผ่านบทเพลง

บิ๊กกี้เคยขายยา และเคยต้องโทษ เขาก็จะรู้จักเพื่อน ๆ ในแวดวงผู้ที่มีอิทธิพลอยู่พอสมควร แล้ววันดีคืนดี ทูพักได้โคจรไปรู้จัก haitian jack คนที่เที่ยวดื่มทุกวัน รู้จักคนดัง ๆ มากมายลักษณะป๋า พ่อกุรวยอะไรประมานนั้นครับ และพฤติกรรมของทางทูพักก็เปลี่ยนไป เริ่มใส่นาฬิกาแพง ๆ ใส่แหวนเพชร ใส่อะไรอีกต่าง ๆ มากมาย

คนรอบข้างก็พยายามเตือนเขาให้ระวังด้วยที่ว่า 2pac เขาไม่คิดว่าคนผิวสี คนไหนจะเกลียดเขา เพราะเขาพยายาม  ทำให้ภาพลักษณ์ ของคนผิวสีดูขึ้นในทุก ๆ ด้าน และส่งเสริมความเป็นอยู่ของคนผิวสี แต่การที่เขาเดินไปไหนมาไหน  ในย่านชุมชนแออัด เช่น ย่านดีทรอยต์ โดยที่ใส่เครื่องประดับสะขนาดนั้น มันก็ไม่ต่างอะไร จากร้านเพรชร้านทองเคลื่อนที่ได้

และนี้อาจเป็นสาเหตุ ที่ทำให้มีคนไม่ประสงค์ดีกับเขา และแล้ววันแห่งความซวยก็มาถึง วันที่ 2pac ของเราได้รู้จักกับ สาวน้อยคนหนึ่งอายุ 19 ปี ด้วยความที่เขาเป็นเบอร์ 1 ใคร ๆ ก็ต้องอยากเข้าหา ในวันนั้นเอง สาวน้อยคนนี้ก็มาหา 2pac ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ในวันนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวมี haitian jack อยู่ด้วยในวันนั้น

2pac เป็นศิลปินแร็ปที่มียอดขายมากที่สุด นักเคลื่อนไหวทางสังคม หนังสือกินเนสบุ๊คบันทึกไว้ว่า 

หลังจากวันนั้นเอง ทั้งสองคนก็โดนคดีข่มขืนแต่ 2pac เขาปฎิเสธ สุดท้ายศาลตัดสินว่าเขาผิด และเขาก็ต้องเขาไปใช้ชีวิตในเรือนจำ และนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ 2pac สงสัยว่า สาวน้อยคนนี้กับ haitian jack รวมหัวกันวางแผนใส่ร้าย  เนื่องจากช่วงนั้น ทูพักเริ่มที่จะฟังเสียงคนรอบข้างมากขึ้น และเริ่มไหวตัวทัน haitian jack เลยสั่งสอนสะหน่อย

แต่กลับกันทาง haitian jack ได้ให้สัมภาษณ์ว่าที่เขาติดคุก เหตุผลคือ เขาเคยก่อคดีเอาไว้ เขาเคยไปยิงตำรวจที่จอร์เจีย เป็นเหตุให้พวกตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ก็จองจะเล่นเขาอยู่แล้ว นี้คือสิ่งที่ jack เขาพูดไว้ หลังออกจากคุกในปี 1994 วันที่ 30 ของเดือนพฤศจิกายน

วันที่เขาจะไปอัดเพลงที่ห้องอัด เขาก็ได้เจอกับกลุ่มของบิ๊กกี้พอดี แต่ไม่ได้ไปอัดเพลงร่วมกัน พอเขาไปถึง ก็ได้เจอวัยรุ่น 3 คน แต่งตัวไสต์ชุดลายพรางทหาร ประมานแนวฝั่งนิวยอร์ก เขาเองก็คิดว่าไม่มีอะไร คงเป็นพวก ๆ เดียวกัน

แต่ไม่ใช่ครับ ชายสามคนนั้นเริ่มเข้าทำร้ายทูพัก หน้าลิฟต์ชั้นหนึ่ง ขณะนั้นเขาพยายามชักปืน เพื่อออกมายิงต่อสู้ แต่ไม่ทัน เขาโดนยิงเข้าไป 5 นัดเขาต้องใช้วิธีแกล้งตายเพื่อให้รอด จากนั้นทั้งสามคนก็ปลดเครื่องเพชรของเขา แล้วหนีไป

จากนั้นเขาพยายามเข้าไปในลิฟต์แล้วขึ้นไป จังหวะที่ประตูลิฟต์เปิด ภาพที่เขาเห็น คือ กลุ่มของแบดบอยยืนกันอยู่เต็มเลย นั้นเป็นเหตุที่ทำให้เขาปักใจเชื่อว่า พวกนี้มีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน

แต่ทำไมอยู่ดี ๆ มาลงที่พี่บิ๊กกี้ของเรา !!? คิดถึงความเป็นจริงเนาะ คุณมีเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัด คุณไปหาเพื่อนแล้วคุณก็โดนซ้อม แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมคุณถึงคิดว่า เพื่อนคุณเป็นคนทำ ทูพักไม่ใช่คนโง่ มันต้องมีบางสิ่งบางอย่าง ที่ทำให้เขารู้สึกว่าเฮ้ย !! ทำไมบิ๊กกี้น่าจะเป็นคนที่ทำร้ายเขา เขาคิดว่าแค่ปล้นเฉย ๆ คงไม่ยิงเขาถึง 5 นัด หรืออาจจะเป็น haitian jack ที่มาสั่งสอน ที่เขากล่าวหาออกสื่อ หรือบิ๊กกี้กำลังอิจฉาเขาอยู่ เพราะอย่างที่ผมเล่าไป puff daddy และ Biggie เป็นคนมีชื่อเสียง และ Biggie ก็เคยค้าขายยา ทั้งสองรู้จักผู้มีอธิพล น่าจะสืบหาได้ว่าใครทำเขาได้ แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ เป็นไปได้ยังไง

เขาไม่เพียงแค่เป็นคนที่เกิดมามีชีวิตเหมือน ๆ กัน มีวัยเด็กใกล้ ๆ กันมีความฝันเหมือน ๆ กัน และก็เป็นแร็ปเปอร์ที่มีความสามารถเหมือน ๆ กันเท่านั้น แต่ทั้งคู่ ยังที่มีจุดจบของชีวิตเหมือน ๆ กันอีกด้วยครับ

ทั้ง Tupac และ Biggie ถูกเก็บ หรือถูกยิงตายกลางสี่แยกสี่แดงทั้งคู่ Tupac นั้นถูกยิงตายก่อน ส่วนบิ๊กกี้ก็เดินทางมาถิ่นของ Tupac เพื่อโปรโมทอัลบั้มใหม่ เพื่อที่จะจบสงครามระหว่าง east coast และ west coastลง แต่มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาหวังไว้ ในขณะที่รถของ Biggie ติดไฟแดง ก็นั้นแหละครับจุดจบเดียวกัน ปัจจุบันตำรวจก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้ น่าเสียดายคนมีความสามารถ ถ้าเขาทั้งสองยังไม่ตาย ก็คงยังสร้างความบันเทิงให้เราได้ ปัจจุบันทั้ง Tupac และ Biggie รุ่นราวคราวเดียวกับ Snoop Dogg ซึ่ง Snoop Dogg ทุกวันนี้ก็ยังสร้างผลงานเพลงมาจนถึงปัจจุบัน