Far Cry 6 Preview ภาคนี้ปรับสูตรการสร้างไปค่อนข้างมาก จากการโดนถล่มวิจารณ์จากแฟนเกม

Far Cry 6 Preview เกมร้องไห้ไกลภาคที่ 6 (ขำๆ) หรือ ฟาร์คราย 6 เป็นเกมกระตูล Far cry ที่มีสเน่ห์ในรูปแบบเกมที่เป็น Open-World มุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่ให้อิสระกับผู้เล่น ในการเล่นและผจญภัย ไม่ว่าจะบุกตรง ๆ ลอบสังหาร วิ่งไล่เก็บของ สำรวจแผนที่ตัวเกมให้อิสระในการตัดสินใจค่อนข้างมาก

เพิ่มความน่าสนใจด้วยเรื่องราวที่เข้มข้น ในแต่ละภาคเรื่องราวก็จะถูกเซ็ตขึ้นมาใหม่ ทำให้ผู้เล่นไม่เบื่อและรู้สึกสดใหม่ตลอดทุกครั้งที่เล่นก่อนหน้า Far Cry 6 นั้นมีกระแสดราม่าหนักหน่วงเกี่ยวกับบริษัทที่เน้นสูตรสำเร็จในการสร้างเกม

ไม่ว่าจะเป็น The Division 2, Far Cry 5, Ghost Recon: Breakpoint ที่โดนดราม่าหนักมากว่าทำเกมที่ใช้สูตรสำเร็จมาทำ แพทเทิร์นแค่ฆ่าศัตรู เกมกล่องรางวัล อัพของสวมใส่ตัวละคร และวนไปแบบนี้เรื่อย ๆ

โดยที่หนักสุดก็จะเป็น Ghost Recon: Breakpoint ที่ได้รับกระแสตีกลับอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเกมที่เหมือนจะสร้างไม่เสร็จ บัคเยอะถึงขั้นที่บางคนเล่นไม่ได้ บทพูดและการแสดงออกของตัวละครที่ขัดแย้งและไม่น่าสนใจ

เปรียบเทียบกับราคาเกมที่เป็นระดับ AAA แต่กลับไม่สามาถทำเกมในคุณภาพตามที่นำเสนอออกมาได้ ซึ่งจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ก็ยังมีปัญหาตามมาในอีกหลาย ๆ เกม จนความเชื่อมันของฐานแฟนคลับ Ubisoft นั้นตกต่ำลงไปอย่างมาก

ทีมผู้ผลิตและพัฒนาเกมที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ต้องออกมาขอโทษขอโพยกันยกใหญ่ ถึงการที่ไม่สามารถทำตามมาตราฐาน ที่ตนเองตั้งไว้ได้ และสัญญาจะมีการเปลี่ยนแปลง ในการผลิตเกมในอนาคต ซึ่งการมาของ Far Cry 6 นั้นเป็นเหมือนบททดสอบของ Ubisoft ว่าจะซ้ำรอยประวัติศาสร์หรือไม่

เรื่องราวของ Far Cry 6 เกิดขึ้นในเกาะเขตร้อนที่ชื่อว่า Yara

ยังคงคอนเซ็ปกับการปฏิวัติเพื่อปลดแอกอิสระภาพให้กับผู้คน ในเกาะ Yara นั้นประชาชนมีความทุกข์ยากภายใต้การปกครองของประธานาธิบดีอันโหดเหี้ยม Antón Castillo ตัวละครนี้ได้รับการแสดงโดย Giancarlo Esposito ที่เป็นนักแสดงเข้าชิงรางวัล Emmy Award อย่าง Better Call Saul, The Boys และ The Mandalorian

Antón Castillo สั่งสอนให้ Diego(นำแสดงโดย Anthony Gonzalez จาก Coco) ผู้เป็นลูกได้สืบทอดเจตนารมณ์ และเส้นทางที่ตัวพ่อนั้นได้สร้างเอาไว้ เพื่อคงอยู่ไว้ซึ่งเกาะที่ได้ฉายาว่า Paradise หรือสวงสวรรค์

โดยเราจะได้สวมบทบาท ตัวละครของกองกำลังปฏิวัติ ที่ต้องการจะโค่นล้มร ะบอบอำนาจเผด็จการอันนี้ เพื่อทำลายสวงสวรรค์อันจอมปลอมนั่นเอง

Far Cry 6 Preview บทสัมภาษ Navid Khavari ผู้รับหน้าที่เป็น Director Manager กับรายละเอียดของเกม

Navid Khavari ออกมากล่าวว่าเขาตั้งใจมองหาสถานที่ที่เราไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อนในซีรีย์เกมนี้ รวมถึงเขาต้องการจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับการปฏิวัติ และพอนึกถึงการปฏิวัติ ก็นึกถึงกองโจร พอนึกถึงสงครามกองโจร ก็นึกถึงสงครามคิวบา

คุณ Navid ยังบอกด้วยว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่เขาได้มีโอกาสบินไปที่คิวบาจริง ๆ และได้ใช้เวลาหลักเดือนกับทีมงานในการแล่นเรือชมเกาะต่าง ๆ และได้พบเจอกับกลุ่มกองโจรที่มีอยู่จริง ๆ บนโลกนี้

ซึ่งคุณ Navid กล่าวว่ามันคือจุดเริ่มต้นของเกาะ Yara ที่ไม่ต้องการเล่าแค่เรื่องของการปฏิวัติแบบกองโจรสมัยใหม่ แต่ต้องการจะนำเสนอประวัติศาสร์ที่มีชีวิตอยู่บนโลก และเหมือนถูกแช่แข็งไว้ในชีวิตปี 1960 ที่เราสามารถสัมผัสถึงมันได้

ในประวัติศาสตร์ Far Cry 6 นี่เป็นครั้งแรกของการนำเสนอ สภาพแวดล้อมในรูปแบบของเมือง

ตั้งแต่ Far Cry ภาคแรกนั้น ตัวเกมดำเนินเรื่อง โดยที่ไม่เคยให้เราได้ไปสัมผัสกับเมืองเลย เต็มที่คือเป็นเหมือน เมืองชนบทที่ก็ไม่ได้ศิวิไลซ์ อะไรเหมือนเมืองสมัยใหม่ เรามักจะได้ไปผจญภัย ในหมู่เกาะที่เป็นไปด้วยหน้าผา ป่าไม้ ภูเขา หมู่บ้านบนภูเขา

แต่ภาคนี้นั้นแม้จะให้ผู้เล่นอยู่ในเกาะ แต่ในเกาะกลับมี จุดที่เป็นเมืองจริง ๆ อยู่ ซึ่งเป็นส่วนเล็ก ๆ ของตัวเกมที่สามารถเปลี่ยนประสบการณ์การเล่นของผู้เล่นได้

และคุณ Navid ยังกล่าวเสริมในเรื่องนี้ว่า การที่เขาเอาสภาพแวดล้อมของเมืองมานั้น เหตุผลก็เพราะต้องการนำเสนอ อำนาจและผลกระทบในการปกครองของ Antón ว่าเป็นอย่างไร และตึกก็ไม่ใช่เป็นตึกเฉย ๆ แต่ได้ใส่รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปเพื่อความสมจริงมากขึ้น

ซึ่งในเกมนั้น การเข้าไปในเมือง ก็เหมือนการเข้ารังของสิงโต เพราะมันคือเมืองที่ Antón ปกครอง เราผู้สวมบทตัวละครของกลุ่มปฏิวัติย่อมกลายเป็นศัตรูกับเหล่าลูกน้องของ Antón อยู่แล้ว

แต่เพราะความอิสระของสไตล์เกม ทำให้การเข้าเมือง เป็นการท้าทายอย่างนึง ว่าคุณจะเข้าไปแบบไม่กลัวอะไร บุกตะลุยแบบตรง ๆ หรือจะเน้นหลบ ๆ ซ่อน ๆ วิ่ง ปีน ไต่กำแพง เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเอง ทั้งหมดคุณตัดสินใจได้เอง

ยิ่ง Far Cry ที่มีเอกลักษณ์การปีนป่าย การห้อยโหน ลอบฆ่าจากข้างบน หรือข้างล่าง ยิ่งทำให้การวิ่งเล่นในเมืองนั้น เปลี่ยนความรู้สึกของเกมจากภาคก่อน ๆ ไปได้มากเลยทีเดียว

การนำเสนอมุมมองของฝั่งที่เราเรียกว่าตัวร้าย เหตุผล และแรงจูงใจของ Antón Castillo

การสร้างความลึกซึ้งของเนื้อเรื่องและตัวละคร ด้วยการเล่าที่มาที่ไปของตัวร้ายในภาคนี้นั้น ทำออกมาได้น่าสนใจมาก โดยคุณ Navid ได้เล่าประเด็นนี้ไว้ค่อนข้างชัดเจน ในตอนที่เขากำลังสร้างตัวละคร Antón เขาคิดถึงตัวละครในบทบาทจอมเผด็จการ ที่ควบคุมประเทศด้วยแนวคิดว่าเขากำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง

แม้ว่าจะต้องใช้ประชาชน เป็นทาสในความทะเยอทะยานของเขา ที่จะสร้างเกาะแห่งสวงสวรรค์ ที่เป็นสวรรค์ของคนบางกลุ่ม  อย่างประโยคที่พูดออกมา ในเทรลเลอร์ว่า “I’m going to build paradise, but paradise isn’t for everyone”(ผมกำลังสร้างสวงสวรรค์ แต่สวงสวรรค์นี้ไม่ใช่สำหรับทุกคน)

เพิ่มตัวละครเข้าไปอีกคือลูกของ Antón นั่นคือ Diego ในอายุ 13 ปี และได้รับการสั่งสอนและปลูกฝังแนวคิดจากคนเป็นพ่อออกมาอย่างชัดเจน อย่างที่เราเห็นในเทรลเลอร์ Antón มีการสั่งสอนลูกด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมตามนิสัยของเขา หวังที่จะให้ลูกสานต่อสวงสวรรค์ต่อไปในอนาคต

เรื่องราวที่ซับซ้อนเหล่านี้ ไม่ว่าจะฝั่งกองกำลังปฏิวัติ หรือฝั่งเผด็จการ ต่างก็มีแนวคิดที่ยึดมั่นในแบบของตน ในมุมมองนึงเราสามารถมองได้ว่า การกระทำของ Antón ก็ไม่ได้เป็นความผิดที่เป็นสีดำถึงขนาดนั้น และกองกำลังปฏิวัติเองก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของสีขาวอะไร เพียงแต่อุดมการณ์ที่ยึดมั่นต่างกัน

เนื้อเรื่องเข้มข้นแบบนี้ เกมเพลย์และสภาพแวดล้อม ที่มีความแตกต่างออกไปจากภาคก่อน ๆ จะสามารถมัดใจแฟนคลับกลับมาได้มั้ย เราก็ต้องรอดูกันต่อไป แต่ในตอนนี้กระแสนั้น ไปทางบวกเลยทีเดียว คงต้องรอตัวเกมออกมาให้เล่นกัน แล้วเราจะมาอัพเดตให้ฟังกันอีกที