คุณแม่หลังคลอด ร่างกายจะมีความอ่อนแอเป็นพิเศษ ซึ่งต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และรวมไปจนถึงวิธีการที่ดูแลตัวเองอีกด้วย

คุณแม่หลังคลอด โดยคุณแม่ที่เพิ่งจะ ให้กำเนิดลูกน้อย ไม่ว่าจะด้วยเป็น วิธีการคลอดบุตร แบบธรรมชาติ หรือเป็นวิธีการคลอดบุตร ด้วยการผ่าตัด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ตามที

ทั้งนี้สภาพร่างกาย ในภายหลังจากที่เพิ่งจะผ่าน การคลอดบุตรมานั้น จะไม่ได้อยู่ ในสภาวะที่เป็นปกติ โดยที่สภาพร่างกายในขณะนั้น ก็จะมีความอ่อนแอ มากเป็นพิเศษ

โดยถือว่าคุณแม่ ที่อยู่ในสภาวะ ที่เพิ่งจะคลอดบุตร นั่นคือผู้ป่วยคนหนึ่ง ที่มีความจำเป็น ที่จะต้องได้รับการรักษาพยาบาล ดูแลกันเป็นอย่างดี เพื่อให้สภาพร่างกาย ได้รับการรักษาฟื้นฟู เพื่อให้กลับมา ดีขึ้นเหมือนเดิม อย่างรวดเร็วที่สุด

โดยคุณแม่ที่พึ่งผ่าน จากการคลอดบุตร จะเกิดมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งทางสภาพ ของร่างกาย และทางสภาพของจิตใจ ซึ่งความจำเป็น ที่จะต้องได้รับ การเอาใจใส่จากแพทย์ และบุคคลที่อยู่ร่วมกัน ภายในครอบครัวเป็นอย่างดี ด้วยเช่นเดียวกัน 

และด้วยสาเหตุนี้เองจึงได้เกิดเป็นคำแนะนำ ให้คุณแม่หลังคลอดได้นำไปปฏิบัติ เพื่อให้สามารถ ที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ หลังจากที่ได้ผ่าน การคลอดบุตร คุณแม่หลังคลอดกินอะไรได้บ้าง

ซึ่งจะเป็นทั้งเรื่องในส่วนของ การปฏิบัติตัว หลังจากได้ผ่าน การคลอดบุตร การปฏิบัติตัว ในช่วงระยะเวลาของ การพักฟื้นร่างกายหลังคลอด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จะใช้ระยะเวลา อยู่ประมาณ 5-6 สัปดาห์ด้วยกัน

โดยช่วงระยะเวลาประมาณนี้ ในส่วนของอวัยวะเพศ จะเริ่มที่จะได้รับ การฟื้นฟูสภาพ กลับคืนไปสู่สภาวะปกติ เหมือนในช่วง ที่ยังไม่ได้ มีการตั้งครรภ์ ข่าวบันเทิง

แต่ในส่วนของ สภาพสภาวะ ทางจิตใจนั้น อาจจะต้องใช้เวลา ในการปรับตัว ที่ยาวนานมากกว่า สำหรับสถานะใหม่ ของความเป็นแม่คน และการเลี้ยงดูทารก ที่เพิ่งจะลืมตา ขึ้นมาดูโลกนั่นเอง การเปลี่ยนแปลงหลังคลอด

การเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกาย หลังจากที่ได้ผ่านการคลอดบุตร

โดยในส่วนของมดลูกนั้น เป็นอวัยวะหนึ่ง ที่ต้องได้รับบทบาทอย่างหนัก มาตลอดระยะเวลา ที่อุ้มท้องเป็นเวลานาน 9 เดือน ซึ่งโดยปกติแล้ว มดลูกของมนุษย์นั้น จะมีขนาดประมาณ เท่ากับผลของลูกชมพู่

แต่เมื่อได้เกิดการ ตั้งครรภ์ขึ้นมา มดลูกก็จะมีขนาด ที่ขยายใหญ่ขึ้นมา มากกว่าผลของแตงโม ซึ่งก็เพื่อให้มีขนาดที่ใหญ่พอ สำหรับการเจริญเติบโต ของทารกในครรภ์ 

และหลังจากที่ได้ผ่าน การคลอดบุตรออกไปแล้ว มดลูกก็ยังจะต้อง ทำการบีบรัดตัว เพื่อให้กลับคืนสู่สภาพ และขนาดเดิม ที่เคยเป็นมา ซึ่งจะเป็นสาเหตุ ที่จะสร้างความเจ็บปวด อยู่ประมาณ 2-3 วัน ให้กับคุณแม่หลังคลอดทุกรายไป

แล้วก็อาจจะ ยังมีอาการเจ็บเบาๆ ต่อไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่มดลูก จะหดตัวจนได้ขนาด แล้วกลับเข้าไป อยู่ในตำแหน่งของ อุ้งเชิงกรานตามเดิม ดูแลตัวเองหลังคลอดให้สวย

ซึ่งโดยปกติแล้ว มดลูกจะมีน้ำหนัก อยู่ที่ประมาณเกือบ 1 กิโลกรัม โดยมันเป็นอวัยวะ ที่มีส่วนประกอบของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อบางๆ ที่ได้ถูกบุอยู่ บริเวณผนังของมดลูก ซึ่งมันก็จะหนาตัวขึ้น อย่างที่สังเกตเห็นได้ชัด หลังจากที่ได้ เกิดการตั้งครรภ์ และเลือดอีกเป็นปริมาณมากมาย

ซึ่งถ้าได้ทดลอง ใช้มือเปล่าคลำหาดู ก็จะสังเกตพบว่า มดลูกนั้นมีขนาดโตขึ้น เหมือนกับตอนที่ กำลังตั้งครรภ์ ในช่วงระยะเวลา ประมาณ 4-5 เดือน หรือถ้าจะเปรียบเทียบ ให้ได้เห็นภาพ ได้อย่างชัดเจน นั่นก็คือมันจะมีขนาด ประมาณของผลส้มโอย่อมๆ นั้นเอง 

และหลังจากที่คุณแม่ ได้คลอดบุตร ไปได้เพียง 1 วัน ตำแหน่งของมดลูก จะอยู่ที่บริเวณระดับสะดือ และมันก็จะค่อยๆ เลื่อนระดับต่ำลง จนกลับคืนไปสู่ ในตำแหน่งปกติตามเดิม สุขภาพ

และหลังจากช่วงเวลานั้นประมาณ 10-12 วัน ก็จะไม่สามารถ ที่จะคลำหามดลูกได้เจอ จากที่บริเวณหน้าท้องอีกแล้ว และขนาดของมัน ก็จะลดลงไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่จะต้อง ไปพบแพทย์เพื่อตรวจ ความสมบูรณ์ของร่างกาย จากนั้นราว 5-6 สัปดาห์ มดลูกก็จะกลับไป มีขนาดปกติ และมีน้ำหนัก อยู่ที่ประมาณ 50 กรัม ตามเดิม เพจคุณแม่หลังคลอด

แผลฝีเย็บ และช่องคลอด เป็นในส่วนของผิวหนัง ที่อยู่ในตำแหน่ง ระหว่างอวัยวะเพศ กับช่องทวารหนัก และในขั้นตอนของการคลอดบุตร แพทย์ผู้ทำคลอด อาจจะต้องมีการ ใช้มีดกรีดออกบ้าง เพียงเล็กน้อยเพื่อความสะดวก ในการคลอดของทารก แล้วจะถูกเย็บ ให้ติดไว้ตามเดิม ด้วยไหมละลาย หรือไหมปกติก็ตามแต่ 

โดยแผลที่ได้เกิดขึ้นอยู่ภายในบริเวณช่องคลอด อาจจะเกิดมีอาการบวมขึ้นมาบ้างเพียงเล็กน้อย ทำให้ในช่วง 2-3 วันแรกนั้น คุณแม่อาจจะต้อง มีอาการที่ลุกนั่ง ที่ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าใดนัก เนื่องจากรู้สึกเจ็บปวด ที่บริเวณของแผล

แต่ช่วงระยะเวลา ภายใน 3-4 สัปดาห์ หลังการคลอดบุตร บาดแผลที่เกิดในช่องคลอด ก็จะหายสนิทไปเอง และอาการเจ็บปวดดังกล่าว ก็จะหายไปเองด้วย อีกเช่นเดียวกัน ข้อห้ามหลังคลอด

ซึ่งโดยตามธรรมชาติแล้ว คุณแม่ที่ได้เพิ่ง ได้ให้กำเนิดทารก ก็จะมีน้ำนมเกิดขึ้น ซึ่งด้วยสาเหตุนี้ ก็จะเป็นสาเหตุ ที่ทำให้คุณแม่ รู้สึกคัดตึง บริเวณเต้านมอยู่บ้าง อาการหลังคลอด 3 เดือน

ซึ่งสิ่งหนึ่งที่มีความจำเป็น ที่จะต้องทำเป็นอย่างมาก นั่นก็คือการที่ให้ทารก ได้ดูดน้ำนม จากเต้านมของผู้เป็นแม่ เพราะจะเป็นการช่วยให้ ทารกแรกเกิด

ได้รับสารอาหาร ที่มีคุณค่าอย่างครบถ้วน ที่มีอยู่ในน้ำนมของแม่ และอีกทั้งยังเป็นการช่วยบรรเทา อาการคัดตึงของเต้านมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย @UFA-X10

ในส่วนของหน้าท้อง ที่เคยขยายใหญ่ขึ้น ในช่วงเวลาที่กำลังอุ้มท้องอยู่ก็จะเริ่มยุบลง แต่ก็ไม่ถึงกับแบนราบ เหมือนตอนที่ยังไม่เคย ตั้งครรภ์แต่อย่างใด ซึ่งต้องอาศัยการบริหารร่างกายของคุณแม่เอง ที่จะช่วยให้พื้นที่บริเวณหน้าท้องนั้น กลับมาอยู่ใน สภาพปกติตามเดิม 

โดยในสมัยโบราณ หลายคนก็อาจจะ เคยได้ยินกันว่า การที่จะทำให้ หน้าท้องของคุณแม่หลังคลอด กลับมาแบนราบ เหมือนเช่นเดิมนั้น ก็จะต้องทำการอยู่ไฟ ปัญหาคุณแม่หลังคลอด

หรือว่าอาจจะใช้วัตถุ ที่มีอุณหภูมิร้อน มานาบลงบริเวณของผิวหน้าท้อง ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ความร้อนนั้นจะช่วยให้ ผิวหนังในบริเวณนั้น หดคืนกลับเข้าไป สู่สภาวะปกตินั่นเอง

ซึ่งในปัจจุบัน ทางการแพทย์ได้มีการพิสูจน์ และยืนยันแล้วว่า ไม่เป็นความจริง การที่จะทำให้หน้าท้องของคุณแม่ ที่เพิ่งคลอดบุตรนั้น กลับมาแบนราบ ได้เหมือนเดิม ก็จะต้องอาศัย การบริหารร่างกายของคุณแม่ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

โดยถ้าหากว่าคุณแม่ ได้ทำการบริหาร ร่างกายหลังคลอด ได้จนกลับมาสามารถ ที่จะสวมใส่กางเกง หรือกระโปรงตัวเดิม ที่เคยใส่ก่อนที่จะ มีการตั้งครรภ์ได้ นั่นก็หมายความว่า พื้นที่ในบริเวณหน้าท้องนั้น ได้กลับคืนสู่ สภาพเดิมแล้ว และก็ยังเป็นสิ่งที่ดี ต่อสุขภาพของ ตัวคุณแม่เองอีกด้วย 

Artist Em