หลายคนคงมีคำถาม vannda เป็นคนประเทศอะไร เขาก็คือราชาเพลงแร็ปที่พาเสียงดนตรีของเขมรไปทั่วโลก ซึ่งใครที่ชอบฟังเพลงแนวฮิปฮอป จะต้องรู้จักเขาอย่างแน่นอน เพราะหนุ่มน้อยคนนี้เขาไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เพราะว่าเขาคือหนึ่งในศิลปินแร็ปชาวกัมพูชาที่โด่งดังที่สุดตอนนี้ และเมื่อเขาเก่งมากขนาดนี้ ทำให้เขาสามารถเอาเพลงพื้นบ้านเขมรมากผสมผสานกับดนตรีฮิปฮอปได้อย่างลงตัว
รู้ไหมเพลงของเขานั้นมีความทันสมัยและน่าสนใจมาก แถมยังได้อารมณ์แบบไทย ๆ อีกด้วย เพลงฮิตที่กลายเป็นเพลงติดหูอย่าง Time TO rise vanndaเป็นเพลงที่เขาได้ร่วมงานกับปรมาจารย์ดนตรีของกัมพูชา ทำให้เห็นได้เลยว่าเขาให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมของตัวเองมากแค่ไหน
vannda ประวัติกับชีวิตในวัยเด็ก: กว่าจะมาเป็นราชาเพลงแร็ป
คงไม่มีใครคาดคิดหรอกนะว่าหนุ่มน้อยที่เติบโตมาจากเมืองชายหาดอย่างสีหนุวิลล์ จนได้กลายมาเป็นแร็ปเปอร์ชื่อดังระดับโลกได้ เพราะชีวิตในวัยเด็กของเขา อาจจะไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่เต็มไปด้วยเรื่องราวและประสบการณ์ที่หล่อหลอมให้เขาเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และด้วยความที่เขาเติบโตมากับธรรมชาติและวัฒนธรรมเขมรดั้งเดิมนี่แหละทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ดีเยี่ยม
ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดในเมืองที่ไม่ค่อยมีอะไรที่เกี่ยวกับดนตรี แต่เขาก็หลงรักเสียงเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาชอบฟังเพลงพื้นบ้านเขมรที่บรรพบุรุษที่สั่งสอนกันมา และพอเขาโตขึ้นเขาก็เริ่มจะสนใจเพลงแนวฮิปฮอปจากต่างประเทศ โดยเฉพาะศิลปินที่เขาชื่นชอบอย่าง Eminem, Tupac และ Jay-Z ทำให้เขาได้รู้จักดนตรีแนวใหม่และเป็นโลกทัศน์มากขึ้น
ต้องยอมรับว่าVannDa เก่งมากที่นำเอาเพลงฮิปฮอปแนวทันสมัยมาผสมผสานกับดนตรีพื้นบ้านของเขมรได้ลงตัวสุด ๆ ทำให้เพลงของเขาฟังดูแล้วไม่เหมือนใคร และยังเป็นการนำเสนอวัฒนธรรมเขมรให้คนทั่วโลกได้รู้จักมากยิ่งขึ้นอีกด้วย คงต้องขอบคุณวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมและดนตรีสมัยใหม่ทำให้เขามีไอเดียในการสร้างผลงานออกมาได้ไม่ซ้ำใคร
VannDa: แร็ปเปอร์ชาวกัมพูชาที่โลกต้องยอมรับ
ชีวิตของแวนด้านักร้องในช่วงแรก ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนะ ซึ่งการเป็นแร็ปเปอร์ในกัมพูชาเมื่อก่อนไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะว่าวงการดนตรีตอนนั้นยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก ซึ่งเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการหาที่แสดง การทำเพลง และการหาคนช่วยสนับสนุน แต่ด้วยความมุ่งมั่นเขาไม่เคยยอมแพ้ และยังตั้งหน้าตั้งตาทำผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง
สุดท้ายโอกาสก็มาถึง ตอนที่เขาได้เข้าร่วมกับค่ายเพลง Baramey Production ที่เป็นเหมือนครอบครัวที่สนับสนุนและให้คำแนะนำเขา บารมีโปรดักชั่นเห็นถึงความสามารถพิเศษของเขา ที่สามารถผสมผสานดนตรีฮิปฮอปเข้ากับวัฒนธรรมเขมรได้อย่างลงตัว ที่นี่เขาได้มีโอกาสในการพัฒนาตัวเองและทำผลงานออกมาได้อย่างต่อเนื่อง
จุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเขาเกิดขึ้นก็ตอนที่เขาได้ปล่อยเพลง Time To Rise ร่วมกับอาจารย์ของเขา Kong Nay เป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่ชื่นชอบของคนกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพลงนี้สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของชาวกัมพูชาได้อย่างแท้จริง
ปฏิวัติวงการเพลง!VannDa ผสมผสานดนตรีเขมรและฮิปฮอปได้อย่างลงตัว
ถ้าหากคุณได้ฟังเพลงของเขาตั้งแต่VANNDA – Sangkran Magic จนถึงเพลงนี้จะต้องรู้สึกได้ถึงความพิเศษที่มีความแตกต่างจากศิลปินคนอื่น ๆ แน่นอนว่าสไตล์ของVannDa รู้สึกได้ถึงความพิเศษที่แตกต่างจากศิลปินคนอื่น แต่สไตล์ของเขานั้นมันไม่เหมือนใคร เพราะเขาสามารถนำเอาเอกลักษณ์ของดนตรีไทยมาผสมผสานกับดนตรีฮิปฮอป ทำให้เพลงของเขานั้นมีกลิ่นอายของความเป็นไทยแต่ยังทันสมัยและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน
ไม่น่าเชื่อว่าเพลงของเขาไม่ได้มีแค่ดนตรีที่ไพเราะ แต่ยังได้รวมเอาเรื่องราวและอารมณ์ที่สะท้อนชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทยด้วยนะ เนื้อเพลงของเขาพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความสูญเสีย หรือแม้แต่ปัญหาสังคม ทำให้ผู้ฟังรู้สึกอินไปกับเพลงได้อย่างง่ายดาย และยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยไปพร้อม ๆ กัน
จากความสามารถและความตั้งใจของเขาเคยทำเพลง Baby mama vanndaทำให้เขาไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในวงการเพลงไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย เพลงของเขาได้รับความนิยมอย่างมาก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นน้อง ๆ ที่ต้องการจะสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เขาเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าดนตรีไทยสามารถไปได้ไกลแค่ไหน เมื่อได้นำเอามาผสมผสานกับดนตรีสมัยใหม่
แรงบันดาลใจที่ไม่มีวันดับ: เรื่องราวของVannDa
vanndaเกิดที่ไหนคงไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กหนุ่มจากสีหนุวิลล์จะได้กลายมาเป็นศิลปินชื่อดังระดับโลกVannDa ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความฝันเป็นจริงได้เสมอ ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถของเขา ทำให้Vannda #เพลงกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก และยังช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมกัมพูชาไปให้คนทั่วโลกได้รู้จัก
เขาไม่ใช่แค่ศิลปิน แต่ยังเป็นเหมือนตัวแทนของคนกัมพูชา ที่ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในเวทีโลก ผ่านทางเสียงเพลงของเขา เราจะได้เห็นถึงความสวยงามของวัฒนธรรมกัมพูชา และรู้สึกถึงความภูมิใจในประเทศของเรา นอกจากนี้เพลงของเขายังช่วยให้คนทั่วโลกได้รู้จักและเข้าใจในวัฒนธรรมกัมพูชามากยิ่งขึ้น
งานนี้อนาคตของVannDa ยังดูสดใสมาก ๆ เลยนะ เราอาจจะได้เห็นเขาไปทัวร์ในคอนเสิร์ตทั่วโลก หรืออาจจะได้เห็นผลงานใหม่ ๆ ที่มีความน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้นด้วย ไม่ว่าอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร เราก็ยังเชื่อว่าVannDa จะยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ต่อไปอย่างแน่นอน